วงเงินค่ารักษา 1 - 5 ล้านบาท/ครั้ง
จุดเด่น
สมัครได้ตั้งแต่อายุ 11-90 ปี ดูแลยาวถึงอายุ 99 ปี
คุ้มครองเต็มแม็กซ์ ทั้งโรคมะเร็ง โรคไต โรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด และอุบัติเหตุ
นอนห้องเดี่ยวมาตรฐาน ได้ทุกโรงพยาบาล
ไหวแค่ไหน เลือกจ่ายแค่นั้น ด้วยการเลือกแผนความคุ้มครองเหมจ่ายตั้งแต่บาทแรก หรือเลือกกำหนดความรับผิดส่วนแรกเพื่อลดค่าเบี้ยประกันภัยให้ลดลง
เลือกปรับได้ตรงใจ เมื่อถึงวัยเกษียณให้สิทธิ์เลือกปรับลดความรับผิดส่วนแรก รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องแถลงสุขภาพใหม่
เลือกพลัสความคุ้มครองเสริมได้ตามต้องการ ความคุ้มครอง แคร์ พลัส (Care Plus), การรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD), ความคุ้มครองการคลอดบุตร พลัส (Maternity Plus) และสุขภาพดี พลัส (Well-Being Plus)
เงื่อนไขของแบบประกัน
1. อายุเริ่มของผู้ขอเอาประกันภัย
11 ปี – 90 ปี และความคุ้มครองถึงอายุ 99 ปี (แต่ไม่เกินความคุ้มครองของกรมธรรม์หลัก)
2. การชำระเบี้ยประกันภัย
รายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และรายเดือน (เป็นไปตามกรมธรรม์หลัก)
ทั้งนี้ จำนวนเบี้ยประกันภัยรายงวดของทั้งกรมธรรม์ไม่ต่ำกว่า 200 บาท
3. กลุ่มอาชีพที่รับประกันภัย
กลุ่มอาชีพ 1, 2 และ 3
4. การตรวจสุขภาพ
เป็นไปตามระเบียบการตรวจสุขภาพของแบบประกันภัยหลัก
5. การซื้อแนบท้าย
1. ผู้ขอเอาประกันภัยสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ดี เฮลท์ (D Health) หรือสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ดี เฮลท์ (N) หรือสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ดี เฮลท์ พลัส ได้มากกว่า 1 สัญญา โดยผลประโยชน์สูงสุดต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง รวมทุกสัญญา และรวมทุกช่องทางการขายแล้วจะต้องไม่เกิน 5,000,000 บาท ต่อผู้ขอเอาประกันภัยแต่ละคน ทั้งนี้ ผลประโยชน์สูงสุดที่ใช้ในการพิจารณาให้นับรวมทั้งประเภทสามัญ และ ILP
2. สัญญาเพิ่มเติมนี้สามารถซื้อแนบท้ายได้ทั้งกรมธรรม์ใหม่ และกรมธรรม์เดิม รวมถึงสัญญาตะกาฟุล ทั้งนี้ เงื่อนไขของแบบประกันภัยหลัก/สัญญาตะกาฟุลที่สัญญาเพิ่มเติมนี้สามารถแนบท้ายได้มีดังนี้
2.1 แบบประกันภัยหลัก/สัญญาตะกาฟุลจะต้องมีจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ/จำนวนเงินหลักประกันตะกาฟุลขั้นต่ำ ตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของจำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ/จำนวนเงินหลักประกันตะกาฟุลขั้นต่ำ ของแต่ละแบบประกันภัย/สัญญาตะกาฟุล
2.2 ระยะเวลาเอาประกันภัย/ระยะเวลาของสัญญาตะกาฟุลนับแต่วันที่ขอเอาประกันต้องมากกว่า 1 ปีขึ้นไป กรณีการซื้อแนบท้ายกรมธรรม์เดิม บริษัทกำหนดให้ตรวจสุขภาพทุกราย ยกเว้นกรณีที่ผู้ขอเอาประกันภัยขอซื้อสัญญาเพิ่มเติมนี้ ภายใน 1 ปี หลังจากวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ โดยกรมธรรม์เดิมใช้ใบคำขอเอาประกันชีวิตชนิดมีคำถามสุขภาพอย่างละเอียด และบริษัทรับประกันแบบมาตรฐาน สามารถขอซื้อได้โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพอย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 กรณี บริษัทอาจขอเอกสารทางการแพทย์เพิ่มเติมได้
3. ผู้ขอเอาประกันภัยสามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ดี เฮลท์ พลัส แนบกับสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพอื่นๆ ได้อีกดังต่อไปนี้
1. สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพประเภท 1 ตามคำสั่งที่ 28/2562 เรื่อง ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับประกันกลุ่มสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ ครั้งที่ 1/2562 โดยหลักเกณฑ์ในการซื้อเป็นไปตามตารางการซื้อสุขภาพประเภท 1 เพียงประเภทเดียว
2. สัญญาเพิ่มเติมสุขภาพประเภท 2 ตามคำสั่งที่ 28/2562 เรื่อง ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับประกันกลุ่มสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ ครั้งที่ 1/2562 โดยหลักเกณฑ์ในการซื้อเป็นไปตามตารางการซื้อควบสุขภาพประเภท 1 และประเภท 2
3. บันทึกสลักหลัง ความคุ้มครองการคลอดบุตร พลัส (Maternity Plus)
4. บันทึกสลักหลัง สุขภาพดี พลัส (Well-Being Plus)
5. สำหรับการซื้อสัญญาเพิ่มเติมอื่นๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละผลิตภัณฑ์
6. การพิจารณาจ่ายสินไหม
บริษัทจะพิจารณาจ่ายสินไหมของสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ แบบ ดี เฮลท์ พลัส จากใบเสร็จรับเงินฉบับจริงเท่านั้น ไม่สามารถใช้สำเนาใบเสร็จได้
7. การเปลี่ยนแปลงสัญญาเพิ่มเติม
สำหรับผู้ขอเอาประกันภัยที่มีสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพอยู่แล้ว และมีความประสงค์จะยกเลิกสัญญาเพิ่มเติมที่มีอยู่และซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพตามคำสั่งนี้ จะต้องมีการพิจารณารับประกันภัยใหม่ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด
ข้อควรระวัง : การซื้อสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพใหม่ จะต้องมีการเริ่มต้นของระยะการรอคอยใหม่ และโรคที่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยได้จากสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพที่มีอยู่ หากเป็นโรคเรื้อรังก็จะไม่สามารถเรียกร้องได้จากสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพใหม่ เนื่องจากจะถือเสมือนว่าเป็นโรคที่เกิดขึ้นก่อนสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพมีผลบังคับ
8. การชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิต
อนุญาต ให้ชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิตและ
อนุญาต ให้ชำระเบี้ยประกันภัยผ่านบัญชีบัตรเครดิต (CCP)
ผลประโยชน์ความคุ้มครอง